|
|||||||||||
![]() |
ผมได้ภาพเจ้าแม่กวนอิมนี้มาจากการไปกราบไหว้ "หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี" "ท่าพระ กรุงเทพมหานคร" ผมจึงนำมาเผยแพร่เพื่อหวังในอานิสงส์ในการกราบไหว้บูชาเจ้าแม่กวนอิมให้แด่ทุก ๆ ท่านครับ ในการนี้ผมขอขอบคุณ "ห.จ.ก. พี.วี. การพิมพ์" "( คุณประจักษ์-คุณลัดดา ตันตินิยมกุล )", "ครอบครัวตันตินิยมกุล", "ครอบครัวไชยวราสินธ์", "ครอบครัวแสงจันทน์", และ "ครอบครัวแซ่ตั้น" ที่พิมพ์แจกเพื่อเป็นธรรมทานครับ ผมหวังว่าทุก ๆ ท่านได้รับความเป็นสิริมงคล และ ประสบความสำเร็จในทุกสิ่งทุกอย่างสมประสงค์ด้วยพระกรุณาคุณของพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่เป็นองค์สักการะบูชาของเราท่านทั้งหลายนะครับ
"บทสวดสรรเสริญพระแม่กวนอิม" "นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโค่ว กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิม ผู่สัก" ( กราบ ) "นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโค่ว กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิม ผู่สัก" ( กราบ ) "นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโค่ว กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิม ผู่สัก" ( กราบ ) "นำโมฮู๊ก นำโมหวบ นำโมเจ็ง นำโมกิ้วโค่ว กิวหลั่ง กวงสี่อิมผู่สัก ทั่งจี้โต" "โอม เกียล้อฮวดโต เกียล้อฮวดโต เกียออฮวดโต ล้อเกียฮวดโต ล้อเกียฮวดโต" "ซำผ่อออ เทียงล้อซิ้ง ตี่ล้อซิ้ง นั่งลี่หลั่ง หลั่งลี่ซิง เจ็กเฉียก ใจเอียงห่วยอุ่ยติ๊ง" "นำโมม่อออปัวเยี่ยกปอล้อบิ๊ก" ( กราบ ) "สวดมนต์บทนี้ ๑ จบ ให้จุดทึบที่วงกลม ๑ วงทุกครั้ง เพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้นและต้องหมั่นทำความดี กตัญญูต่อบิดามารดา ผู้มีพระคุณทั้งหลาย และพิมพ์หนังสือธรรมะแจกเป็นธรรมทาน ตั้งใจแน่วแน่ในการสวดพระคาถาบทนี้ ก็จะสมหวังตามที่บนบานไว้ทุกอย่าง" ผมขอแนะนำให้สวดมนต์บทนี้ "ครบ ๒๔๐ จบ" "โดยจุดทึบที่วงกลมทั้ง ๒๔๐ ครั้ง แล้วปฏิบัติตามคำแนะนำของบทความ" ที่อ้างอิงมาจาก พระพุทธโสธร มงคลชีวิต ๙ ประการ วิธีแก้กรรม-สะเดาะเคราะห์ ผมขอขอบคุณทุก ๆ ท่านครับ
ผมขอความเมตตากรุณาจากท่าน น นที นิพากรเมธ ( น. นที ) ในการนำ “ ข้อคิดจากสำนวนนิยายกำลังภายในของ “ โกวเล้ง “ “ มาเผยแพร่เพื่อเป็นคติสอนใจแด่ทุก ๆ ท่านนะครับ ๑. “ ...คนผู้หนึ่ง ขอเพียงไม่ละอายต่อมโนธรรมประจำใจ มีชีวิตอย่างสุขสำราญก็เพียงพอแล้ว ไยต้องถือสาหาความว่าผู้อื่นคิดอย่างไร “ ๒. “ ...ต้นไม้บางพันธุ์ในฤดูหนาว ดูแล้วคล้ายดั่งแห้งโกร๋นตายไป แต่พอถึงฤดูใบไม้ผลิ ได้รับลมอบอุ่น ฝนชุ่มฉ่ำ แสงอาทิตย์ลูบไล้ ก็พลันกลับกลายฟื้นคืนชีวิต...สำหรับท่าน...คล้ายดั่งกับเป็นมิตรสหายประเภทนั้น...” ๓. “ ...เสียดายที่พวกเราพบกันสายเกินไปแล้ว...นอกจากท่านเคยกล่าววาจาประโยคนี้มาจริง ได้ยินมาจริง มิฉะนั้น ท่านต้องไม่มีปัญญาคาดคิดคำนวณ วาจานี้แฝงความเจ็บปวดใจเศร้ารันทดเพียงไหน... “ ๔. “ ...การทำร้ายคนกับการช่วยคน...ผิดแผกแตกต่างกัน การทำร้ายคนไม่มีประโยชน์ การทำร้ายคน...ขอเพียงลงมือก็สามารถทำร้ายคนผู้หนึ่ง...การช่วยคน ต้องทุ่มเทสมาธิ...จิตใจมากหลาย... “ ๕. “ ...เรื่องที่ไม่อาจอธิบายโดยกระจ่างชัด...บางครั้งไม่อธิบาย...กลับเป็นการอธิบายที่ดีที่สุด... “ ๖. “ คำพูดที่กล่าวจากดวงตา ก็เป็นสำเนียงที่กล่าวจากใจ ซุ่มเสียงชนิดนี้ไม่สามารถได้ยินด้วยหู ผู้ที่สามารถได้ยินมีไม่มาก...ซุ่มเสียงชนิดนี้ต้องใช้หัวใจ...สดับฟัง “ ๗. “ ...กับคำว่า “ อ้างว้างเดียวดาย “ ผู้คนบางคนเห็นว่า..เป็นความทุกข์ประการหนึ่ง แต่ผู้คนบางคน...ไยมิใช่เห็นเป็นความสุขประการหนึ่ง นี่คือ...ข้อแตกต่างของจิตใจคน... “ ๘. “ ...คนที่มีนิสัยอันสัตย์ซื่อถือมั่น ขอเพียงรักคนผู้หนึ่ง ก็ทุ่มเทจิตใจจนหมดสิ้น เมื่อผู้อื่นไม่รักมัน...จะก่อเกิดเป็นแผลหัวใจ...สายหนึ่ง... “ ๙. “ ...ยังมีบ้างบางคน ขอเพียงท่านพบมันครั้งหนึ่ง จะรู้สึกว่ามันเข้าใจท่าน และท่านก็จะเข้าใจมันซึ้งกระจ่าง คล้ายกับพวกท่านเป็นสหายสนิทกันมาช้านาน หรือเนื่องเพราะ...พวกมัน ความจริงเป็นบุคคลประเภทเดียวกัน... “ ๑๐. “ ...ความรัก เป็นเรื่องราวพิเศษพิสดารจริง ๆ ทั้งมิอาจคุกคามบังคับ ทั้งมิอาจเสแสร้งแสดงได้... “ ๑๑. “ ...ความจริง...ในชั่วชีวิตของมนุษย์เรา ที่บันดาลให้หดหู่รันทดสุดแสน มิใช่เป็นการจำพราก แต่เป็นการได้อยู่ร่วม เพราะหากมิได้อยู่ร่วม...ไหนเลยมีการจำพราก “ ๑๒. “ ...วาจาที่กล่าวเพียงไม่กี่คำ...หากแต่ได้เคลือบแฝงด้วย ความรัก ความจริงใจ... บางครั้งยังเหนือล้ำกว่าพันคำหมื่นวจี... “ ๑๓. “ ...หากท่านบังเกิดความรักต่อผู้หนึ่งอย่างจริงใจ ท่านจะพบว่า คนที่ท่านห่วงใยกังวลที่สุด หาใช่ตนเอง...หากแต่เป็นคนที่ท่านรัก... “ ๑๔. “ ...เงินทองมีส่วนละม้ายเหมือนอิสตรีประการหนึ่ง หากได้มาง่ายดาย... ยามเสื่อมสูญ...ก็รวดเร็วยิ่ง... “ ๑๕. “...สตรีนางหนึ่ง หากชมชอบรังควาญหาเรื่องท่านหึงหวนต่อท่าน ประคารมกับท่าน สตรีนี้ย่อมไม่โง่เขลาเกินไป ดังนั้น รอจนท่านเกิดปัญหายุ่งยาก ผู้ที่มาช่วยเหลือท่าน...มักจะเป็นนาง... “ ๑๖. “ เรื่องที่คิดไม่ออก ควรสลัดทิ้งชั่วคราว จึงประเสริฐ มิเช่นนั้น ง่ายต่อการว้าวุ่นจนหลงผิด...ยิ่งคิดยิ่งห่างไกลความจริง...ยิ่งคิดยิ่งไม่ใช่เรื่องนั้นแล้ว... “ ๑๗. “ ...อิสตรีนางหนึ่ง หากสนิทสนมกับบุคคลอื่น เพียงไม่แยแสท่านคนเดียว อาจบางทีหมายความว่า จิตใจนางมิได้จดจ่อกับบุคคลอื่น...เพียงผูกพันต่อท่าน... “ ๑๘. “ ...มีแต่บุคคลที่เคยสูญเสียความรัก จึงทราบว่า น้ำใจควรคู่กับการทะนุถนอม หากแม้สูญเสียไป ต้องเจ็บปวดรวดร้าวเพียงไหน เงียบเหงา เปล่าเปลี่ยว ปานใด... “ ๑๙. “ ...ในโลกไม่มีคนดีเลิศล้ำและคนชั่วสุดสามานย์ ค่าแห่งความดีเลว...เพียงขึ้นอยู่กับข้อวินิจฉัยส่วนตัวบุคคล... “ ๒๐. “ มิว่าเป็นสตรีเย็นชาปานใด ต่างมีด้านของร้อนอยู่...เพียงแต่ว่า ความร้อนของนางถูกซ่อนไว้ในส่วนลึกของหัวใจ...เพียงระบายให้แก่คนผู้เดียว... “ ๒๑. “ ความรู้สึกของสตรีต่างพิกลยิ่ง หากท่านไม่ได้รับความเคารพจากนาง ก็ต้องไม่ได้รับความรักจากนาง บุรุษเพศอาจจะมีความรักเพราะเวทนาและเห็นใจ...แต่สตรีกลับรักแต่บุรุษที่นางเคารพ...เท่านั้น “ ๒๒. “ สำหรับผู้หวังค้นหาแก่นแท้ของความสุขสงบ มิอาจละเลยคำพังเพยสองประโยค...วางมือได้ ควรวางมือ อภัยได้ควรอภัย... “ ๒๓. “ น้ำสามารถรองรับเรือ น้ำก็สามารถถล่มเรือ มิว่าเรื่องราวใดต่างเป็นเช่นนี้ หากท่านใช้ในวิถีทางที่ถูกต้อง สารหนู...ก็เป็นยาประเสริฐที่ช่วยชีวิตได้... “ สารหนูในที่นี้คือ การเหนื่อยหน่ายและการเบื่อในเรื่องราวดังกล่าวนั้นเอง หากท่านรู้สึกเบื่อหน่ายต่อเรื่องราวใด และใช้วิถีทางที่ท่านปล่อยวาง เรื่องราวใดก็จะไม่มาเป็นที่กังวล หรือรำคราญใจท่าน นั่นเอง ๒๔. “ ...ผู้คนส่วนใหญ่ต้องแลเห็นสิ่งของ จึงจะยอมรับคุณค่าของมัน หาทราบไม่ว่า สิ่งของที่มองไม่เห็น มีคุณค่ากว่าสิ่งที่เห็นมากนัก... “ สิ่งของที่มองไม่เห็น นั่นคือ จิตใจ อันบริสุทธิ์และดีงาม นั่นเอง ๒๕. “ การสังเกตคนให้ชัดเจน เข้าใจคนสักผู้หนึ่ง มิเพียงดูจิตใจ ดูสันดาน ยังต้องดูอุบายของมันด้วย คนที่มีจิตใจลึกซึ้งและยังมีสันดานไม่ดีงาม จึงเป็นคนที่น่าสะพรึงกลัว... “ ๒๖. “ คนผู้หนึ่ง ยามคับแค้นรันทด การแสดงออกที่น่ากลัว มิใช่ร่ำไห้...หากแต่เป็นหัวเราะ มิใช่พลุ่งพล่านดาลใจ...หากแต่เป็นชาด้าน “ ๒๗. “ บางครั้ง เป็นเพราะรู้จักหลอกตัวเอง ผู้คนจึงสามารถมีชีวิตสืบไป หากแม้นเข้าใจเกินไป มองทะลุปรุโปร่งต่อเรื่องราวเกินไป เกรงว่าจะไม่กำลังขวัญอยู่สืบต่อ... “ ๒๘. “ ผู้กระทำคุณงามความดี ถึงจะเป็นคู่อาฆาต ก็ต้องปูนบำเหน็จ ผู้กระทำผิด ถึงโทษหนัก ก็ต้องผ่อนให้ ผู้เล่นลิ้นกล่าวมุสาถึงเรื่องเบา ก็ต้องลงทัณฑ์... “ ๒๙. “ ระหว่างคนต่อคน ไม่ว่าจะเป็นพ่อลูก เป็นพี่น้อง เป็นคู่หมั่นหมาย สมควรรักษาระยะห่างช่วงหนึ่งไว้ ระยะห่างช่วงนี้ จะทำให้ผู้คนรู้สึกอ้างว้าง แต่ก็เป็นการประกันความปลอดภัย เป็นศักดิ์ศรีและความสุขสงบของผู้คน... “ ๓๐. “ ...สุราดีหรือเลว หาใช่อยู่ที่ตัวมันไม่...ขึ้นอยู่กับท่านดื่มมันในอารมณ์ใด...หากเป็นคนที่คับแค้นรันทดอย่างสุดซึ้ง มาตรว่าเป็นเมรัยรสเลิศในแดนดิน ยามล่วงล้ำลำคอก็ขมฝาดจนบอกไม่ถูก... “ ๓๑. “ ความจริงสตรีส่วนใหญ่ล้วนชาญฉลาดยิ่ง นางหากทราบว่า ไม่มีปัญญาโค่นท่านล้มลง นางจะโอนเอนมายังท่าน ดังนั้น ท่านหากไม่ต้องการถูกสตรีสยบ...ได้แต่สยบนาง... “ ๓๒. “ รักแท้เกิดจากใจจริง ไม่จำเป็นต้องดำเนินวิธีใด ๆ หากคิดใคร่ได้รับแท้จากผู้อื่น มีแต่ใช้ความจริงใจเข้าแลกมา “ ๓๓. “ สัญญาสุภาพบุรุษคือ สัญญาที่แต่ละฝ่ายคิดว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นสุภาพบุรุษ ในขณะที่ตนเอง ไม่เป็นสุภาพบุรุษ “ กล่าวคือ หากท่านเป็นสุภาพบุรุษ ท่านย่อมมีคู่รักเป็นสุภาพสตรี นั่นเอง ๓๔. “ คำลวงต้องระรื่นหู สตรีอสรพิษต้องเป็นโฉมสะคราญยอดพธู ยาพิษคร่าชีวิตมักมีรสหวานปานน้ำผึ้ง เชื้อพิษดอกเหมยที่ฆ่าคน ก็มีสีสันอันเฉิดฉายชวนให้ผู้คนตาลายละลาน แต่คำเตือนมักระคายหู ยาดีก็มีรสขมฝาด... “ นี่คือ สตรีผู้มีเสน่ห์ แต่ชอบใช่เสน่ห์ไว้ล่อลวงบุรุษ ทำให้บุรุษอกหัก และเปรียบเหมือนความขมขื่นในใจ เป็นดังยาดีที่ใช้สมานใจ และบทเรียนชีวิตที่ต้องฟันฝ่าไปจนกว่า รักแท้ของท่านจะมาถึง ๓๕. “ ...คนที่ต่ำทรามในสายตาชาวโลกไม่แน่ว่า...ล้วนต่ำทรามทั้งสิ้น วิญญูชนในสายตาของชาวโลก จะมีสักกี่คน...ที่เป็นวิญญูชนที่แท้จริง... “ วิญญูชน ในที่นี่ก็คือ บุคคลที่มีจิตใจบริสุทธิ์ งดงาม นั่นเอง ๓๖. “ ...ศัตรูและสหาย คือ คนละด้านของเหรียญอันเดียวกัน ศัตรูก็เป็นสหายได้ และสหายก็เป็นศัตรูได้ สิ่งที่แตกต่างก็คือ ศัตรูแปรเปลี่ยนเป็นสหาย เป็นได้ยาก แต่เป็นนาน...สหายแปรเปลี่ยนเป็นศัตรู เป็นได้ง่าย แต่ไม่มีทางกลับคืน... “ “ Man to man, it’s so unjust. Children, Ya don’t know who to trust. Your worst enemy could be your best friend and your best friend, your worst enemy………… “ Bob Marley’s lyrics ๓๗. “ ทุกเรื่องราวในโลก นานไปจะต้องจางลง รวมทั้งความรัก มีแต่ความทรงจำ มิเพียงไม่จางลง มิหนำซ้ำยิ่งมายิ่งเข้มข้น ยิ่งเข้มข้นยิ่งปวดร้าว ความปวดร้าวถมทวี...ความทรงจำ ยิ่งเข้มข้น “ ขอให้ท่านคิดถึงแต่ความทรงจำที่ดีและประทับใจท่าน เท่านั้น ส่วนความทรงจำที่ปวดร้าว ขอให้เป็นแค่บทเรียนครั้งหนึ่งในชีวิต และจงให้อภัยต่อกัน และทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วต่อเป็นคติสอนใจและบทเรียนชีวิต ขอให้ท่านเลือกจำแต่ความทรงจำที่ประเสริฐ ของท่านไว้เป็นเหมือนหนึ่งในอดีต และชีวิตต่อไปข้างหน้าของท่านจะมีแต่ความสุขสงบ เกษม เปรมปรี ต่อจากนี้ไป ๓๘. “ ...คนที่ท่านต้องการลืมที่สุด กลับเป็นคนที่ท่านไม่อาจลืมได้ “ ๓๙. “ สุกรมิอาจอ้วนพีเกินไป คนไม่อาจฉลาดปราดเปรื่องเกินไป สุกรที่อ้วนพีจะถูกฆ่าก่อน คนหากต้องการมีชีวิตอย่างสุขสำราญ สมควรแฝงความโง่งมอยู่หลายส่วน... “ ๔๐. “ ...ต่อให้เป็นสหายที่สนิทสนมที่สุด บางครั้งยังจะเกิดเรื่องเข้าใจผิดได้ ดังนั้น ท่านหากเกิดเข้าใจผิดกับสหาย...สมควรเปิดโอกาสให้มันอธิบาย “ ๔๑. “ ...บุรุษที่ชาญฉลาด คมคาย มากปัญญา อุดมด้วยทรัพย์สมบัติ มีอาชีพการงานที่มั่นคง เหตุใดสตรีจึงละทิ้งโดยไม่แยแส...คำตอบก็คือ...บุรุษผู้นั้นน่าเบื่อเกินไป... “ ๔๒. “ ...จุดอ่อนในชีวิตของ “ ลี้คิมฮวง “ ( พระเอก ในนิยายกำลังภายใน เรื่อง “ ฤทธิ์มีดสั้น “ ) ก็คือ น้ำใจอันเปราะบาง กล่าวไปแล้ว มีแต่คนใกล้ชิดเท่านั้นจึงสามารถทำร้ายเขาได้ หากคิดจะโค่นเขาให้พ่ายแพ้ มิว่าใช้วิธีใดหรืออาวุธใดต่างลำบากยากยิ่ง...มีแต่ต้องใช้น้ำใจเท่านั้น... “ ได้โปรดอย่าใช้น้ำใจเช่นนั้น มาเข่นฆ่ากันเลย ๔๓. “ ...คนเรามีแต่เมื่อถึงคราไม่กริ่งเกรงกังวลเรื่องราวทั้งมวลโดยสิ้นเชิง จึงจะมีอำนาจ มีพลัง...ไร้ตัณหาจะเข้มแข็ง...ไร้กังวลจะเด็ดเดี่ยว “ ๔๔. “ ...ในโลกนี้ ไม่มีผู้ใดจะอยู่กับอีกผู้หนึ่งไปชั่วกาลนานได้ ในระหว่างคนต่อคน มิว่าจะอยู่ร่วมกันเนิ่นนานปานใด ผลของบั้นปลาย ยังคงต้องพลัดพรากจากกัน...มิใช่จำพราก ก็เป็นตายจาก “ ๔๕. “ ...การหลั่งน้ำตา มิใช่ความอ่อนแอ ยิ่งมิใช่ขวัญอ่อน น้ำตากับหัวเราะเป็นการแสดงออกถึงน้ำใจ ทั้งเป็นการแสดงออกอย่างจริงจัง...” ๔๖. “ ...ในสายตาสตรี สามีที่ดี มิใช่มีอายุสูงวัยหรือหนุ่มฉกรรจ์ หากขึ้นอยู่กับว่า มันใช่รู้จักเอาอกเอาใจภริยาหรือไม่...ใช่ลูกผู้ชายคนหนึ่ง หรือไม่... “ ๔๗. “ ...คนที่ยิ่งไม่ยินยอมให้ความรู้สึกจริงใจปรากฏออกมาให้ผู้อื่นเห็นน้ำใจของมัน คนผู้นั้นมักจะยิ่งสัตย์ซื่อบริสุทธิ์... “ ๔๘. “ ...คนดี จะถูกทำร้ายได้โดยง่าย หากคิดประทุษร้ายคนต่ำช้าที่วางแผนทำร้ายผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา กลับไม่ง่ายดาย เนื่องเพราะตลอดทั้งวันมันวางแผนทำร้ายผู้อื่น ดังนั้น ระมัดระวังตัวเองเป็นพิเศษเพราะกลัวจะถูกผู้อื่นลอบทำร้าย... “ ๔๙. “ ...ยังดีที่มีบ้างบางคน ไม่มีหน้ากาก มีเพียงใบหน้าเดียว...ใบหน้าของมันเอง ไม่ว่าเผชิญเรื่องราวใด ใบหน้านั้นไม่มีวันเปลี่ยนแปลง พวกมันจะร่ำไห้เป็นร่ำไห้ จะหัวเราะเป็นหัวเราะ จะอยู่เป็นอยู่ จะตาย...เป็นตาย... “ ๕๐. “ ...ความรัก นับเป็นสิ่งประหลาดที่พิสดารที่สุดในโลก เมื่อยิ่งเผชิญอุปสรรคยากแค้นมากเพียงใด ดอกผลที่ผลิตออกมาก็ยิ่งหอมหวน...ยืนนาน... “ ๕๑. “ ...มนุษย์เรา บางครั้งถึงกับคล้ายเป็นลาลากโม่ที่ถูกปิดตาไว้ชีวิต คือ แส้เส้นยาว ยามที่แส้โบยใส่หลัง ท่านก็มีแต่เดินไปข้างหน้า กระทั่งตัวท่านเองก็ไม่ทราบ ต้องเดินถึงเมื่อใด...จึงยุติ... “ ๕๒. “ ...คนผู้หนึ่งขอเพียงมีความสงบทางใจ ไม่ว่าเสียสิ่งใดล้วนคู่ควรทั้งสิ้น เพราะหากใจไม่สงบ อยู่ไปยังจะเจ็บปวดรวดร้าวกว่าตาย...มากนัก... “ ๕๓. “ ...สตรีที่สวยงาม ปกติมิใคร่ยอมใช้ความคิด บุรุษที่รู้จักใช้สมอง ปกติก็มิใคร่ยอมใช้ปากพูด... “ ๕๔. “ ...มนุษย์ส่วนมากจะเป็นเช่นนี้ ไม่ได้พบคนที่ชอบ ก็เป็นทุกข์ ได้พบคนที่ไม่ชอบ ก็เป็นทุกข์... “ ๕๕. “ การทำร้ายคนผู้หนึ่ง ไม่แน่ว่าจะต้องทรมานร่างกายมัน การคุกคามทางจิตใจก็ได้ผลเช่นเดียวกัน ทั้งบางครั้งยังสาหัสกว่า “ ๕๖. “ ...ความสำเร็จของคนผู้หนึ่ง ล้วนหล่อหลอมมาจากประสบการณ์มากหลาย เป็นประสบการณ์ที่ต้องใช้ หยาดเหงื่อโลหิต บทเรียน และกาลเวลา...แลกมาทั้งสิ้น... “ ๕๗. “ ...คนที่พิชิตศัตรูพ่ายแพ้ ก็คล้ายจอกสุราเปล่าใบหนึ่ง เนื่องเพราะปณิธานและความกระหายที่มีอยู่ในใจ ได้พลันเหือดหายว่างเปล่าแล้ว อย่างไรก็ตาม รสชาติของผู้พิชิตยังประเสริฐถวายผู้แพ้อยู่บ้าง... “ ๕๘. “ ...ไม่เอาเรื่องราวใด มีแต่ผู้รู้คุณค่า จึงสามารถให้ราคาสูงล้ำ... “ ๕๙. “ ...ขอเพียงรู้จักวางเฉยกับเรื่องภายนอก จะอยู่ในความสุขสงบมากขึ้น การรับรู้เรื่องราวของคนอื่นมากเกินไป เป็นการรับรู้ที่เปล่าประโยชน์... “ ๖๐. “ ...หากมอบหมายเรื่องสำคัญแก่ผู้ที่ประพฤติไม่เหมาะสม มักจะนำเภทภัยมาสู่ผู้เป็นนาย และผลสะท้อนที่อุบัติตามมา...มักจะเลวร้ายกว่าที่ตนเองกระทำเสียอีก... “ ๖๑. “ ...ความผิดพลาดเป็นบทเรียนที่มีค่าที่สุดบทเรียนหนึ่ง เพราะมันบอกเราอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่ต้องไม่กระทำ ดังนั้นการหลีกเลี่ยงเรื่องที่อาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ บางครั้งกลับจะเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวง “ ๖๒. “ หากท่านผ่านเรื่องราวมามากหลาย แล้วพลันพบว่า บรรดาเรื่องราวทั้งมวลต่างเป็นอดีตไปสิ้น ยามนั้นท่านจึงจะเข้าใจ...กระไร คือ ว้าเหว่... “ ๖๓. “ ...บุคคลที่มิเคยผ่านด่านความรัก ชีวิตออกจะเวิ้งว้างว่างเปล่า ความเวิ้งว้างว่างเปล่านี้ มิว่าสิ่งใดก็ไม่อาจทับถมให้เต็มได้...ตัดใจไม่คะนึงหา คะนึงหากัดกร่อนวันเวลา หากแต่ใคร่ครวญหวนคิดหลายครา...ยังคงคะนึงหาจะประเสริฐกว่า... “ ๖๔. “ ...กระบี่เป็นศัตราวุธดุร้าย แต่มีคนชนิดหนึ่งที่เราไม่ฆ่า...คนที่ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ กระทั่งมันเองยังไม่ต้องการชีวิต...เราใยต้องการชีวิตมัน... “ ๖๕. “ ...ควรแสวงหามิตรสหายทุกเมื่อและในที่ทั้งปวง เพราะมิตรสหายที่ดีจะประเสริฐกว่าญาติ...เนื่องด้วยเราเลือกมิตรสหายได้...แต่เลือกญาติไม่ได้... “ ๖๖. “ ...ผู้ที่สามารถปรับใจให้เป็นไปตามชะตาฟ้าดิน ปรับตัวให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมของตอนนั้นได้ จึงเป็นคนชาญฉลาดอย่างแท้จริง...คนประเภทนี้ จึงสามารถมีชีวิตสืบต่อ... “ ๖๗. “ ...ความเดียวดาย บางครั้งเป็นความสุขอย่างหนึ่ง แต่พาลบันดาลให้ผู้คนนึกคิดถึงเรื่องที่ไม่บังควรนึก... “ ๖๘. “ ...ความล้มเหลวแม้ไม่ดีงาม แต่ความล้มเหลว คือ รากฐานของความสำเร็จ...ความสำเร็จแม้เลอเลิศ แต่มักทำให้ผู้คนกลับกลายเป็นยโสถือดี ดังนั้น ความล้มเหลวจึงอุบัติตามมา... “ ๖๙. “ ...ในที่มีแสงอาทิตย์สาดส่องถึง ท่านจึงสามารถแลเห็นฝุ่นละออง ซึ่งหากท่านไม่เห็นของนั้น มักจะเข้าใจว่ามันไม่มีอยู่ ความจริงมิว่าท่านจะเห็นหรือไม่ ฝุ่นละอองย่อมมีอยู่เสมอไป... ในโลกนี้มีเรื่องมากหลายที่เป็นเยี่ยงนี้ เป็นเช่นฝุ่นละออง ที่มันได้อยู่ข้างกายของท่านนานแล้ว แต่ท่านกลับไม่เคยเห็นมัน ดังนั้น จึงเข้าใจว่ามันไม่มีเสมอมา... “ “ Dust In The Wind, All We Are Is Dust In The Wind…” Kansas’s Lyrics ๗๐. “ ...ในโลกไม่มีเรื่องราวใดที่มิอาจไม่กระทำเด็ดขาด ปัญหาอยู่ที่ในใจท่านคิดเยี่ยงไรเท่านั้น...ขอเพียงท่าน ยินยอมอดกลั้นสักช่วงเวลาหนึ่ง เรื่องราวมากหลายที่ท่านเห็นว่ามิอาจไม่กระทำ...อาจบางทีจะกลายเป็นไม่มีคุณค่าให้ไปกระทำ... “ “ แต่ก่อนก็เคยเป็นหนึ่ง...ไม่แคร์ไม่สนใจ...แต่กลัวสักครั้งที่เธอเปลี่ยนไป จะมาหนีไป... ก็เลยต้องยอมกันบ้าง...จะพร้อมทำตามด้วยความยินยอม “ อัสนี วสันต์ โชติกุล ขับร้องและเรียบเรียง ๗๑. “ ...จงตอบแทนความดี ด้วยความดี และตอบแทนความชั่ว ด้วยความยุติธรรม... “ ๗๒. “ ...ที่ฆ่าคนมิใช่อาวุธ...ที่ฆ่าคน คือ คน... “ คนเราที่เที่ยวเข่นฆ่ากัน แม้แต่ด้วยอาวุธก็ตาม แต่แท้ที่จริง เพียงแค่มีใจอาฆาต และบาดหมางกัน ก็สามารถที่จะใช้อาวุธเข่นฆ่ากันได้แล้ว เนื่องจากคนเรานั้นไซร้มีจิตใจเที่ยวเข่นฆ่ากันเรื่อยไป ไม่ว่าอยู่ในเครื่องแบบ หรือปุถุชนธรรมดา ดั้งนั้น การให้อภัยกันเสียแต่เนื่อง ๆ พอคิดจะเข่นฆ่า ก็กลับกลายเป็นเหมือน การให้อภัยทานซึ่งเป็นทานที่สูงสุดของชีวิตเลยทีเดียวนะครับท่าน ๗๓. “ ...หากโลกนี้ทุกคนต่างร่ำรวย นั่นควรประเสริฐเลิศปานใด แต่ทว่า...หากทุกคนล้วนร่ำรวย เท่ากับ...ทุกคนต่างเป็นคนยากจนแล้ว...” กล่าวคือ ถึงแม้ท่านร่ำรวยแล้วแล้งน้ำใจ เมื่อนั้นความยากจนจะกลับมาเยือน แบบทีละเล็กละน้อย จนกระทั่งท่านรู้สำนึกก็เกือบจะสายเกินไป ๗๔. “ ...พันผิดหมื่นผิด ล้วนเป็นผิดของผู้อื่น แต่เราไม่ผิดพันถูกหมื่นถูก ผู้อื่นต่างไม่ถูก ล้วนเป็นความถูกต้องของเรา...คนประเภทนี้มิอาจตั้งนามเรียกได้...ถือเป็นคนน่าชังที่สุด... “ “ Steadfast, May We? “ ๗๕. “ ...ขอเพียงสามารถมีชีวิต ก็ต้องมีชีวิตสืบไป ยิ่งผู้อื่นต้องการให้ตาย ก็ยิ่งต้องมีชีวิตอยู่ การอยู่รอดมิใช่เป็นความอัปยศ...ตายจึงใช่...” ๗๖. “ ...ทะเลทราย คล้ายจิตใจรวนเรของสตรีนางหนึ่ง ยามร้อนระอุ สามารถเผาไหม้ผู้อื่น...แข็งตัวเป็นน้ำแข็ง... “ ๗๗. “ ...รักผู้อื่นอย่างจริงใจ ผู้อื่นจึงรักตอบอย่างจริงใจ ต่อให้เป็นการต่อสู้พิสูจน์ความไม่ตาย ก็สามารถอาศัยน้ำใจ ทำลายความตั้งใจของฝ่ายตรงข้าม พลิกสถานการณ์จากพ่ายแพ้...เป็นชนะ...” ๗๘. “ ...คนเราจะเที่ยวเสเพลเพียงไร เล่นการพนันงมงายเพียงไร ยังพอแก้ไขกลับกลาย แต่อย่าคบมิตรสหายผิดเป็นอันขาด... “ ๗๙. “ ...มีแต่ผู้ที่สัตย์ซื่อเที่ยงธรรม จึงประสบโชคดี เนื่องเพราะมันไม่ได้หลอกลวงผู้คนแม้สักคนเดียว และไม่ได้หลอกลวงคนแม้สักครั้งเดียว ดังนั้น ไม่ว่ามันจะกระทำการใด ก็มีคนอุปถัมภ์ช่วยเหลือ... “ ๘๐. “ ...น้ำใจมิตรสหาย ของสิ่งนี้แม้มองไม่เห็น ยากไขว่คว้าสัมผัส แต่พลานุภาพของมันสุดที่จะคาดคิดได้... “ ๘๑. “ ...มันปล้นเงินมาสิบหมื่นตำลึง ใช้หนึ่งร้อยตำลึงไปสร้างสะพาน สร้างทาง กลางคืน ฆ่าคนไปหนึ่งร้อย กลางวันกลับ บริจาคยา บริจาคข้าว ดังนั้น หากโจรคิดจะเป็นนักบุญยิ่งใหญ่...ย่อมง่ายดายกว่าคนธรรมดาสามัญ... “ นักบุญใจบาป ๘๒. “ ...ไม่ดีงาม ก็คือ...โฉด ไม่เที่ยงธรรม ก็คือ...ชั่ว... “ ๘๓. “ ...การเชื้อเชิญสุราต่อสตรี เป็นเรื่องที่บุรุษเพศกระตือรือร้นที่สุด มิมีใด เพียงหมายจะได้เห็นโฉมสคราญเมามายเท่านั้น โฉมงามที่เมามาย ใยมิใช่เป็นความงามอีกแบบหนึ่ง... “ ๘๔. “ ...หากท่านคิดคบสหาย ต้องจดจำคำพูดนี้ให้ขึ้นใจ...สหายที่แท้จริง จะไม่สร้างความยุ่งยากใจแก่สหายของตน...อย่างเด็ดขาด... “ ๘๕. “ ...กับคนที่มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความหม่นหมองตรอมตรม การได้นอนหลับอย่างสงบ..ถือเป็นยาบำรุงขนานหนึ่ง... “ ๘๖. “ ...ตราบใดที่ชาวโลกยังผูกพยาบาทมาดร้าย ยังมักใหญ่ใฝ่สูงยังละโมบโลภหลง มากตัณหา...โลกจะไม่มีวันสันติลงได้... “ ๘๗. “ ...มีบ้างบางคนไม่แก่ชราตลอดกาลจริง ๆ เนื่องเพราะหัวใจของพวกมันเต็มไปด้วยความรัก และความหวังของมวลมนุษย์ชาติ...ขอเพียงในใจของคนผู้หนึ่งมีความรักและความหวัง มันก็จะเยาว์วัยตลอดกาลนาน... “ ๘๘. “ ...อิสตรีนางหนึ่ง หากสนิทสนมกับบุคคลอื่น เพียงไม่แยแสท่าน อาจบางทีหมายความว่า จิตใจนางมิได้จดจ่อกับบุคคลอื่น เพียงผูกพันต่อท่าน... “ ๘๙. “ ...ในกระบวนความรักทั้งหลายที่มีอยู่ในโลก อันมีรักของสามี ภริยา รักของสายเลือด รักของคนรัก รักของเพื่อนน้ำมิตร และรักเคารพของศัตรู...รักและเคารพของศัตรู ได้ยากที่สุด... “ ๙๐. “ มีบางคนเมื่อตายแล้ว ผู้คนทั้งหลายพลันรู้สึกเบิกบานใจยิ่ง แต่มีบ้างบางคนเมื่อตาย ผู้คนทั้งหลายกลับอดมิได้ต้อง...หลั่งน้ำตา “ ๙๑. “ ...คนที่สามารถขี่เมฆขับหมอก เป็นคนที่รู้ซึ้งถึงแก่นแท้ของชีวิตแล้ว ไม่กลัว ไม่หวั่นใด ๆ น้ำในบึงถูกความร้อนเผาจนแห้ง ก็ไม่รู้ร้อน น้ำในแม่น้ำเย็นจนแข็ง ก็ไม่รู้หนาว ฟ้าถล่มดินทลาย...ก็ไม่หวั่นเกรง... “ ๙๒. “ ในบางโอกาส การคุ้นเคยกับเรื่องบางอย่างเกินไป อาจบางทีมิสู้อย่าได้คุ้นเคยจะประเสริฐกว่า กับผู้คนก็เช่นกัน คนที่หักหลังท่าน ก็มักเป็นคนที่ท่านคุ้นเคย...ที่สุด เนื่องเพราะท่านคิดไม่ถึงว่ามันจะเกิดการเปลี่ยนแปลง...เช่นนี้ “ ๙๓. “ ...ยามเมื่อท่านทุ่มเทความจริงใจทั้งมวลให้แก่คนผู้หนึ่ง แล้วคนผู้นั้นกลับขายท่าน ความเจ็บช้ำน้ำใจเยี่ยงนี้ มีผู้ใดสามารถคาดคิดได้... “ ๙๔. “ ...ไม่มีแสงสว่าง ไม่มีใด ๆ ล้วนไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวอย่างแท้จริง คือ ไม่มีความหวัง... “ ๙๕. “ ...ขอเพียงในหัวใจสว่างไสว ไยต้องกลัวความมืด... “ ๙๖. “ คนผู้หนึ่งหากทราบว่า มันมีมิตรสหายที่แท้จริง ยืนหยัดอยู่ฝ่ายมัน ร่วมเป็นร่วมตายต่อต้านอุปสรรคด้วยกัน...มันจะแปรเปลี่ยนเป็นกล้าแข็งขัน เชื่อมั่นในตนเองขึ้น “ ๙๗. “ ...เราให้ความต้องการแก่เขา...เราก็จะได้ความต้องการของเรา... “ ผมขอให้ทุก ๆ ท่านจงสุขเกษมสำราญ และโชคดีมีสุข ปลอดภัยเสมอและตลอดไป นะครับท่าน
|
|
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |